แบรนด์”เอราวัณ”จากผลิตภัณฑ์ยางแบบบ้านๆสู่ธุรกิจส่งออกข้ามชาติ

ลองฟังวิสัยทัศน์  “เกรียงไกร เทพินทร์อารักษ์” ประธานสหกรณ์ยางพาราเนินดินแดงตราด จำกัด กับผลิตภัณฑ์ยางพาราไม่ธรรมดา ตีตลาดกวาดยอดขายแดนมังกร กลายเป็น “ค่านิยมของคนจีนว่าต้องการใช้หมอนยางพาราจากประเทศไทยเท่านั้น” แล้วผลิตภัณฑ์จากที่นี่มีดียังไงไปดูเลย…

Advertisement

         เอาว่าถ้าไม่พูดว่าผลิตภัณฑ์ที่เห็นนี่มาจาก “สหกรณ์ยางพาราเนินดินแดงตราด” หลายคนก็คงนึกว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากพรีเมี่ยมที่เลยข้ามประเทศไทย อาจเป็นผลิตภัณฑ์จากเกาหลี ญี่ปุ่น อเมริกา หรือยุโรปเลยก็ว่าได้ ที่ว่ากันแบบนี้คงไม่เกินจริงถ้าได้มาเห็น เพราะผลิตภัณฑ์ยางพาราจากที่นี่ มีความก้าวหน้าทั้งรูปแบบ และเรื่องของมาร์เก็ตติ้ง ติดตลาดจีนจนกลายเป็นค่านิยมใหม่ของลูกค้าแดนมังกร ที่ว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพาราต้องมาจากประเทศไทยเท่านั้น!!

เมื่อดีเบอนั้น… มีเคล็ดลับอะไรและทำได้อย่างไร? กับการสร้างแบรนด์ “เอราวัณ” กับ สินค้าบ้านๆ ที่กลายเป็นสินค้าแบรนด์ดังในประเทศจีน ไปคุยกับ “เกรียงไกร เทพินทร์อารักษ์” ประธานสหกรณ์ยางพาราเนินดินแดงตราด จำกัด ถึงธุรกิจทำเงินโกยรายได้เป็นกอบเป็นกำ ที่กลับมาเป็นรายได้ของเกษตรกรและชุมชน และกลายเป็นสินค้าโด่งดังเป็นธุรกิจข้ามประเทศกัน

นายเกรียงไกร เทพินทร์อารักษ์ประธานสหกรณ์ยางพาราเนินดินแดงตราด จำกัด

ประธานสหกรณ์ยางพาราเนินดินแดงตราด จำกัด” กล่าวถึง สินค้าแปรรูปจากยางพารา โดยผลิตเป็นหมอนยางพาราภายใต้แบรนด์ “เอราวัณ” ว่า “สินค้าตัวนี้เป็นสินค้าที่ทำมาจากชาวบ้านจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการผลิตหรือวัตถุดิบทุกอย่างใช้จากในพื้นที่ทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของแรงงานซึ่งก็เป็นคนในพื้นที่ด้วย สำหรับกรรมวิธีคือการเริ่มต้นด้วยการนำน้ำยางสด ไปแปรรูปเป็นน้ำยางข้น 60 % ซึ่งเป็นกระบวนการปั่นที่มีต้นทุนสูงมาก เพราะต้องผ่านเครื่องจักรที่มีมาตรฐาน ซึ่งกระบวนการนี้ก็ได้นำน้ำยางสด ส่งให้สหกรณ์เครือข่ายยางพาราจังหวัดตราด และเป็นสหกรณ์เดียวที่มีโรงปั่นน้ำยางข้นในลักษณะนี้ ก่อนที่จะส่งกลับมาผลิต โดยผสมกับสูตรต่างๆ เพื่อให้สามารถนำมาขึ้นรูปได้โดยจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน

 

“เริ่มต้นเลยคือจะนำเอาตีฟอง แล้วเอาเข้าตู้นึ่ง 3 ชั่วโมง และเอามาซักเอมาตากจนกว่าจะแห้ง ในกระบวนการนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะหมอนพวกนี้ถ้าไม่แห้งจริงและนำไปจำหน่ายผู้ใช้นำไปใช้ก็จะเกิดราทำให้เสียหายต่อความเชื่อมั่นในแบรนด์ได้ คำว่าแห้งจริงจึงต้องแห้งมาจากเนื้อข้างใน ซึ่งเท่ากับว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน” เกรียงไกร กล่าว

จากกระบวนการผลิตสู่ กระบวนการทางด้านการตลาดและการช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนให้ผลิตภัณฑ์ยางพาราจาก “สหกรณ์ยางพาราเนินดินแดงตราด จำกัด” ภายใต้แบรนด์ “เอราวัณ” พัฒนาจากผลิตภัณฑ์แบบบ้านๆ สู่ธุรกิจส่งออกและสร้างฐานการตลาดที่เข้มแข็ง มีแนวทางและการดำเนินการอย่างไร

“เกรียงไกร”กล่าวต่ออีกว่า “ขณะนี้ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์ หอการค้าไทย และสหกรณ์ภาคการเกษตร ว่า เป็นโอกาสที่ดีที่จะเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจให้กับสหกรณ์ โดยใช้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และหอการค้าจังหวัด เข้ามาร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมการดำเนินงานของสหกรณ์ เนื่องจากหอการค้าจังหวัด จะมีคณะกรรมการซึ่งประกอบไปด้วยนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จึงคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี   ที่อาจจะได้บุคคลเหล่านี้เข้ามาดูแนะนำหรือในประสานงานเพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด และการพัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าสหกรณ์

สำหรับสหกรณ์ยางพาราเนินดินแดงตราด จำกัด เป็นผู้ผลิตสินค้าแปรรูปจากยางพารา โดยผลิตเป็นหมอนยางพาราภายใต้ชื่อ “เอราวัณ” ขณะนี้ตลาดของหมอนยางพาราเริ่มขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  และสหกรณ์มีตลาดหลักอยู่ที่ประเทศจีน เนื่องจากลูกค้าจีนมีความต้องการใช้สินค้าหมอนยางพาราจำนวนมาก   ปัจจุบันสหกรณ์ส่งหมอนไปที่ตลาดจีน เดือนละ 12,000-15,000 ใบ และได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภคชาวจีนจนกลายเป็นค่านิยมของคนจีนว่าต้องการใช้หมอนยางพาราจากประเทศไทยเท่านั้น  ขณะนี้สหกรณ์ได้ร่วมมือกับผู้นำเข้าสินค้าของจีนเพื่อให้เป็นตัวแทนจำหน่ายที่จีนแล้ว 2 บริษัท โดยไม่ต้องขายผ่านพ่อค้าคนกลาง   ดังนั้น สหกรณ์จะมุ่งผลิตสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพาราส่งขายให้กับตัวแทนจำหน่ายที่จีนโดยตรง ซึ่งทางคู่ค้ายังต้องการหมอนยางพาราจากสหกรณ์อีกจำนวนมาก  ซึ่งทำให้การส่งสินค้าไปประเทศจีนไม่ถูก  กดราคาจากพ่อค้าคนกลาง

ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาด สหกรณ์จะเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และตรงกับความต้องการของตลาดเป็นหลัก ซึ่งทำให้สามารถยกระดับราคาได้เพิ่มขึ้น เพราะหากหมอนยางพาราผลิตออกมาไม่ได้คุณภาพก็จะไม่สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่นได้และไม่มีตลาดต้องการ  ดังนั้น สหกรณ์จึงต้องเน้นเรื่องการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ไม่เน้นแข่งขันเรื่องราคา ซึ่งจุดเด่นของหมอนยางพาราที่สหกรณ์ผลิตขึ้นนั้นจะมีหลายคุณสมบัติขนาดนุ่มมาก นุ่มปานกลาง และแข็ง สหกรณ์ก็จะผลิตตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพารากำลังไปได้ดีไม่มีปัญหา  แต่ก็ยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สำหรัรบตลาดภายในประเทศ สหกรณ์ส่งขายที่ดิวตี้ฟรีและขายผ่านทีวีช้อปปิ้ง ผ่านช่อง Shop Channel  MCOT Family  ทเวนตี้โฟร์  ช้อปปิ้ง และเว็บไซต์ลาซาด้าเป็นหลัก ซึ่งมีลูกค้าสั่งซื้อผ่านออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง  ทุกเดือนเช่นกัน

คีย์ซัคเซสสำคัญในการก้าวสู่ความสำเร็จของแบรนด์ เอราวัณ และการทำตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพาราของสหกรณ์ คือการยึดหลักของคุณภาพสินค้าที่ต้องดีสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าจดจำและสั่งซื้อสินค้าของสหกรณ์ไปตลอด เนื่องจากหมอนยางพาราหนึ่งใบใช้ได้นานเป็น 10 ปี กว่าลูกค้าจะกลับมาซื้ออีกครั้งก็นานพอสมควร ดังนั้น สหกรณ์จึงคิดที่จะต่อยอดผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความแตกต่างและหลากหลายให้กับลูกค้า รวมถึงสร้างทางเลือกใหม่ให้กับธุรกิจของสหกรณ์  นอกจากนี้ยังเป็นการต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างงานสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับสมาชิกสหกรณ์อีกด้วย

“ผมมองเห็นจุดอ่อนและจุดแข็งของธุรกิจหมอนยางพาราเป็นอย่างดี มองเห็นโอกาสและช่องทางการตลาดใหม่ ๆ  ดังนั้น จึงคิดว่าจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น พร้อมกับผลิตสินค้าตัวใหม่ออกมาจำหน่าย  ซึ่งเป็นการนำยางพาราแห้งมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของสหกรณ์ ซึ่งจะแตกต่างจากสินค้าเดิมที่มีอยู่ และจะเน้นพัฒนารูปแบบที่ทันสมัย เพราะจะทำให้ขายง่ายและผู้บริโภคกำลังนิยม แต่ทั้งนี้ สินค้าจะต้องมีคุณภาพ และราคาไม่สูงจนเกินไป ซึ่งขณะนี้สหกรณ์ตลาดรองรับและปริมาณคำสั่งซื้อที่ชัดเจนแล้ว คาดว่าน่าจะผลิตสินค้าตัวใหม่นำเสนอออกสู่ตลาดได้ในเร็ว ๆ นี้” ประธานสหกรณ์ยางพาราเนินดินแดงตราด จำกัด กล่าว ในที่สุด