ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงถึงดัชนีผลรวมระดับ 55 จากระดับ 52 เมื่อปี 60
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย หรือThai CSI ในเดือนมิถุนายน 2561 หรือช่วงครึ่งแรกปี 2561 โดยระบุว่า ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยโดยรวม อยู่ที่ระดับ 55 ดีขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนในเดือน ธ.ค.60 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 52 ส่วนดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 54 ดีขึ้นจากครั้งก่อน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 51 และดัชนีแนวโน้มสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยในอนาคตอยู่ที่ระดับ 57 ดีขึ้นจากครั้งก่อน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 53
ส่วนดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทย 4 หมวด พบว่า ดัชนีปัญหาและความรุนแรงของการคอร์รัปชั่น อยู่ที่ระดับ 48 ดัชนีการป้องกันการคอร์- รัปชั่น อยู่ที่ระดับ 54 ดัชนีการปราบปรามการคอร์รัปชั่น อยู่ที่ระดับ 55 และดัชนีการสร้างจริยธรรมและจิตสำนึก อยู่ที่ระดับ 64 ซึ่งดัชนี ทุกรายการปรับตัวดีขึ้นจากผลสำรวจในเดือนธ.ค.60
สำหรับสถานการณ์ที่มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากประชาชนร่วมมือตรวจสอบในการแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น การวางแนวทางป้องกันและปราบปราม ทุจริตคอร์รัปชั่นทำได้ดีขึ้น อย่างไร ก็ดี การสำรวจดัชนี CSI ในเดือนมิ.ย.61 นี้ อยู่ในช่วงการแก้ไขปัญหา เงินทอนวัด, การออก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 จึงทำให้กลุ่มตัวอย่างการสำรวจทั้งภาคประชาชน, ภาคเอกชน และภาครัฐ รวมทั้งหมด 2,400 ตัวอย่าง มีความรู้สึกดีขึ้นต่อการเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น
พร้อมกันนี้ กลุ่มตัวอย่างยังระบุว่าสาเหตุสำคัญที่สุดของการเกิด ทุจริตคอร์รัปชั่นในประเทศไทย 3 อันดับแรก คือ 1.ความล่าช้า, ความยุ่งยากของขั้นตอนในการดำเนินการของทางราชการ 2.กฎหมายเปิด โอกาสให้สามารถใช้ดุลพินิจที่เอื้อต่อ การทุจริต 3.ความไม่เข้มงวดของ การบังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบ โดยรูปแบบของการทุจริตคอร์รัปชั่นในสังคมไทยที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด คือ การให้สินบน ของกำนัล หรือของรางวัล รองลงมาคือ การทุจริตเชิงนโยบาย โดยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และการใช้ตำแหน่งทางการเมืองเพื่อเอื้อประโยชน์แก่พรรคพวก