ก้าวไปในโลกธุรกิจไร้พรมแดนแบบ สะดวกสบาย เมื่อมีผู้ดูแลเรื่องของการขนส่ง การนำเข้า-ส่งออกให้กับธุรกิจ ไปทำความรู้จักกับ “เพื่อคู่คิด มิตรเอสเอ็มอี อีคอมเมิร์ซ” กับ “ธวิทย์ เรืองรองปัญญา” กรรมการผู้จัดการบริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้ง จำกัด
ในโลกแห่งการสื่อสารไร้พรมแดน ทำธุรกิจออนไลน์ ในยุคนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างสูง แต่หลายคนก็ประสบกับปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการค้าขายไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของการนำเข้า-ส่งออก ที่ผู้ค้าหรือผู้ทำธุรกิจยังมีความสับสน
จะดีแค่ไหน?ถ้าเรื่องราวแบบนี้จะมีคนเป็นธุระจัดการให้ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ สร้างความสะดวกสบายและทำให้ธุรกิจออนไลน์แบบนำเข้า-ส่งออก ง่ายจนนึกไม่ถึง นั่นเป็นหนึ่งในที่มาของ “บริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้ง จำกัด” ซึ่งก้าวมาเป็น “เพื่อคู่คิด มิตรคู่ธุรกิจเอสเอ็มอี” ที่ SBN จะนำไปแนะนำทำความรู้จักกับ ธุรกิจ และ ที่มาที่ไป ที่ทำให้ เอสเอ็มอี อีคอมเมิร์ซ นำเข้า-ส่งออกกันได้แบบ ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น
“นายธวิทย์ เรืองรองปัญญา” กรรมการผู้จัดการบริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้ง จำกัด เผยถึงแนวคิดในการดำเนินธุรกิจว่า เกิดจากประสบการณ์ตรงของตนเองที่เคยเป็นพ่อค้าในโลกอีคอมเมิร์ซมาก่อนต้องประสบปัญหาในเรื่องต้นทุนค่าขนส่งที่ค่อนข้างสูงทำให้ได้กำไรไม่คุ้มค่าเหนื่อยจึงคิดที่จะลดต้นทุนในส่วนนี้ลงแต่เมื่อได้เข้าไปพูดคุยกับบริษัทใหญ่อย่างดีเอชแอลแล้วกลับเห็นลู่ทางใหม่ทางธุรกิจคือการให้บริการขนส่งสินค้า ระหว่างประเทศด้วยต้นทุนที่ถูกกว่าผู้ประกอบการดำเนินการขนส่งด้วยตัวเองจึงกลายเป็นที่มาของการก่อตั้งบริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้งขึ้นเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว

ต้องบอกว่าธุรกิจนี้เป็นการมองวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของผู้ประกอบการที่หันมาจับธุรกิจด้านโลจิสติกส์เมื่อครั้งที่การค้าขายในโลกออนไลน์ยังไม่เติบโตอย่างทุกวันนี้ ทำให้เขากลายเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่สามารถจับมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการขนส่งอย่าง ดีเอชแอลได้เป็นผลสำเร็จ รวมถึง Fedex และ TNT ที่เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร
สำหรับ การให้บริการหลักของเอสเอ็มอีชิปปิ้งจะเน้นลูกค้าในกลุ่มเอสเอ็มอีแบบครบวงจรในเรื่องการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งบริการขนส่งทางเครื่องบินรถยนต์และเรือ พร้อมบริการรับสินค้าถึงบ้านหรือ door to door ไม่มีจำนวนขั้นต่ำ และยังสามารถจัดส่งได้รวดเร็วในราคาถูกลงกว่าเดิมประมาณ 30% โดยสินค้าแต่ละชิ้นจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 300 กิโลกรัม ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่วนใหญ่จะจัดส่งสินค้าแต่ละชิ้นไม่เกิน 20 กิโลกรัมสูงถึง 70% ทำให้ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีเลือกใช้บริการจัดส่งสินค้าทางเครื่องบินกว่า 90%
เป็นเวลากว่า 10 ปีที่เอสเอ็มอีชิปปิ้งได้ครองตลาดมายาวนาน เน้นให้บริการกับลูกค้าเอสเอ็มอี ที่แม้ไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์มากนัก แต่ก็เป็นที่รู้จักในกลุ่มของลูกค้าผู้ประกอบการและธุรกิจขนาดกลางไปจนถึงขนาดเล็ก หรือแม้กระทั่งกลุ่มสตาร์ทอัพที่เริ่มต้นขายสินค้าออนไลน์ และมีการส่งสินค้าไปยังประเทศ” กรรมการผู้จัดการบริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้ง กล่าว
เมื่อทำความรู้จักกับธุรกิจนี้ไปแล้ว ก็ต้องมาลองมองดูจุดเด่น ว่าทำไม ธุรกิจเอสเอ็มอี อีคอมเมิร์ซไทย จึงควรที่จะรู้จักกับ “บริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้ง” กับจุดเด่นที่หลากหลาย และการสร้างความเชื่อมั่นเชื่อถือในธุรกิจนี้มาอย่างยาวนานจนทำให้ วันนี้ “บริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้ง” กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นจำนวนมาก
“ธวิทย์” กล่าวต่ออีกว่า “จากจุดเด่นด้านบริการเป็นสำคัญที่นอกจากจะจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้รวดเร็วตามเวลาที่กำหนดแล้วยังมีการให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนในการส่งสินค้าประเภทต่างๆไปยังต่างประเทศเพื่อลดปัญหาเรื่องการนำเข้าและสินค้าถูกตีกลับให้เกิดน้อยที่สุด รวมถึงการให้บริการแบบครบวงจรถือเป็นการบริการที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้ทุกขั้นตอนโดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอีที่มีความรู้ด้านการส่งออกไม่มากนักแต่เชื่อว่าหากมีระบบการขนส่งและบริษัทที่ปรึกษาด้านการส่งออกที่ดีอย่างเอสเอ็มอีชิปปิ้ง ก็จะทำให้ธุรกิจเติบโตไปไกลกว่าที่คิด
ส่วนประเทศที่บริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้งมีความถนัดในการส่งสินค้าไปยังต่างประเทศคือสหรัฐอเมริกาออสเตรเลียและประเทศในแถบยุโรปและเอเชีย เช่น หากส่งสินค้าไปประเทศสิงคโปร์จะใช้เวลาเพียงหนึ่งวันหรือสหรัฐอเมริกาก็จะไม่เกินห้าวันทำการเป็นต้น โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่จัดส่งจะเป็นประเภทเครื่องสำอางค์และรองลงมาจะเป็นสินค้าตัวอย่างแต่ขณะเดียวกันก็มีข้อจำกัดเรื่องสินค้าที่ทางบริษัทฯ ไม่สามารถจัดส่งได้ คือสินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิและสินค้าที่เป็นสิ่งมีชีวิตรวมถึงต้นไม้และสัตว์ทั่วไปด้วยหรือแม้กระทั่งอาวุธเทียมที่เป็นของเล่นเด็กก็ไม่สามารถจัดส่งได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามการเติบโตในธุรกิจประเภทอีคอมเมิร์ซของไทย เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่ดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้งซึ่งในอนาคตบริษัทฯ ก็ได้วางแผนเตรียมขยายสาขาอีก 5 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นจุดรับสินค้าได้รวดเร็วขึ้น รวมถึงในปีนี้ได้เตรียมทำแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ลูกค้าติดตั้งและใช้งานได้สะดวกขึ้นไม่ว่าจะเป็นการติดตามสินค้าข้อมูล ในขณะที่ในปีนี้จะมีการนำแขทบ็อท (Chat Bot) เข้ามาใช้เพื่อให้ตอบสนองด้านการสื่อสาระหว่างลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น โดยคาดว่าการเติบโตในปีนี้จะทะลุ 100 ล้านบาท จากเมื่อปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 80 ล้านบาท” กรรมการผู้จัดการบริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้ง กล่าว
และนี่เป็นอีกเส้นทางที่จะช่วยขยายฐานธุรกิจเอสเอ็มอี อีคอมเมิร์ซไทย ให้เติบโตก้าวไกลสู่โลกสากล ในโลกแห่งธุรกิจแบบไร้พรมแดน หากใครต้องการเริ่มต้นธุรกิจนำเข้า-ส่งออก รวมถึงต้องการที่ปรึกษาดีๆ บริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้งฯ จึงเป็นหนึ่งในช่องทางที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะไม่เพียงแต่รับขนส่งสินค้า และจัดการด้านเอกสารเท่านั้น แต่ยังรับให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจเอสเอ็มอีอีคอมเมิร์ซที่สนใจ หรือเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจอีกด้วย
อีกหนึ่งในช่องทางดีๆ สำหรับใครที่กำลังมองหาเส้นในการทำธุรกิจแบบอีคอมเมิร์ซ กับเพื่อนคู่คิด มิตรธุรกิจ กับ บริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้งฯ