เปิดใจ “วิธพล เจาะจิตต์” ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กับแคมเปญ “Humans of Krungsri”
“7,000 ล้าน คือตัวเลขของประชากรโลก 2,300 คือจำนวนภาษาที่คนในทวีปเอเซียใช้สื่อสารกัน 56 คือตัวเลขกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีอยู่ในประเทศไทย สิ่งที่พบในตัวเลขจำนวนเหล่านี้ของผู้คน หรือ Humans นั่นคือความหลากหลายที่ทำให้โลกเกิดพลวัตอันน่าทึ่ง แม้ว่ามนุษย์เราจะมีความเคยชินและมักจะเลือกรับรู้สิ่งที่เหมือนหรือคล้ายกับตน เมื่อพบเจอกับคนที่มีความแตกต่างกันเราก็อาจไม่คุ้นชิน นี่เองที่พาไปสู่การแบ่งพรรคแบ่งพวกไปโดยปริยาย ซึ่งย่อมเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้าและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ”
นายวิธพล เจาะจิตต์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงที่มาของแคมเปญ Humans of Krungsri และระบุว่า เพราะสังคมไทยได้ชื่อว่าเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม การเปิดพื้นที่ให้ความแตกต่างหลากหลายได้มีที่ยืนในสังคมจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากเราต้องการสังคมที่น่าอยู่ การมองความหลากหลายเป็นเรื่องสวยงาม และความแตกต่างเป็นเรื่องปกติวิสัย ทำให้ผู้คนยอมรับและเคารพซึ่งกันและกัน แม้จะมีข้อขัดแย้งกันบ้างก็ย่อมมีหนทางแก้ไขปัญหาได้โดยง่าย
สำหรับแคมเปญ Humans of Krungsri คือภาพสะท้อนของ Diversity หรือความหลากหลายที่มีอยู่อย่างชัดเจนในองค์กรอย่างแรกคือ ลักษณะเฉพาะขององค์กรเราที่ไม่เหมือนแบงก์อื่นเลย คือการมีความหลากหลายมากที่สุด ที่เรียกว่า Diversity ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติของพนักงาน ความศรัทธาในศาสนาที่ต่างกัน หรือความหลากหลายของเจนเนอเรชั่น เรามีคนทั้ง 4 รุ่นอยู่ในองค์กรเดียวกันคือ ถ้าระดับของคณะกรรมการธนาคารก็จะเป็น “เบบี้บูมเมอร์” มีหลายท่าน 70 กว่าก็มี ผู้บริหารจะเป็นเจนเนอร์เรชั่น X และเราเริ่มมีผู้บริหารที่เป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทในเครือที่เป็นเจนเนอร์เรชั่น Y ก็มีคือองค์กรเราไม่ได้จำกัดว่าต้องแก่ถึงจะโตได้
นายวิธพล กล่าวว่า ในปี 2018 เป็นปีแรกที่เริ่มมีคนทำงานที่เรียกว่า เจนเนอร์เรชั่น M (Millennial Generation)เข้ามาในตลาด แม้แต่ผู้บริหารระดับสูงของเราก็มีตั้งแต่ไทย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย อินเดีย จะเห็นได้ว่ามีความหลากหลายมาก อันนี้คือพื้นฐานแรกของความคิดว่าองค์กรเราเป็นอย่างไร และเป็นความมีอยู่ที่เป็นไปโดยธรรมชาติ ถัดมาคือเรามีความภูมิใจในความหลากหลายนี้ เพราะเป็นจุดเด่นของเรา ในฐานะผู้บริหารอยากให้คนในองค์กรของกรุงศรี มองความต่างในเชิงของการได้ใช้ประโยชน์ การได้เรียนรู้ และการได้ใช้ประโยชน์จากมุมมองที่แตกต่างมาประสานแนวคิด
ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เชื่อว่า Diversity คือที่มาของเรื่องความเข้าใจในมนุษย์อย่างแท้จริง เพราะมนุษย์มีความเป็นหมู่เป็นเหล่า ธรรมชาติแยกพวกอยู่แล้ว แต่ประเด็นคือ ถ้าเรามัวโฟกัสแต่คนที่เหมือนเรา เราจะไม่ได้อะไรที่เพิ่มมูลค่าให้ชีวิตเลย ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าทางความคิด มูลค่าการสร้างสิ่งใหม่ มูลค่าทางจิตใจด้วย ถ้าเรามัวแต่คิดว่า จีนกับแขกไม่ถูกกัน คิดแค่นี้คงไม่ถูก
“ที่กรุงศรี เราไม่คิดแบบนั้น อย่างวันตรุษจีน เราให้ผู้บริหารที่เป็นชาวอินเดียมาอวยพร เป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันไปในตัว หรืออย่างคริสต์มาส ผมนับถือศาสนาพุทธก็จะเป็นคนอวยพรพนักงานที่เป็นคริสเตียน เพราะฉะนั้นที่มาของ Humans of Krungsri คืออยากจะให้คนย้อนคิดถึงมุมมองของแต่ละคน ให้มองความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ และตัวเขาเองจะมีความภูมิใจในสิ่งที่คนๆ นั้นเป็น” ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ กล่าว
นายวิธพล กล่าวว่า เทรนด์ Diversity ในกระแสโลกจะไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร โดยเฉพาะในสังคมประเทศที่เจริญมักให้ความสำคัญในเรื่องความหลากหลายของมนุษย์ ทั้งในเรื่องความหลากหลายทางเพศ ไปจนถึงเรื่องของความแตกต่างหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา หรือวัฒนธรรมก็ตาม สำหรับองค์กรใหญ่อย่างกรุงศรีที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 74 ปี Diversity จึงไม่ใช่แค่การยอมรับในความหลากหลายเท่านั้น จริงๆ แล้วกระแสในเรื่องของความหลากหลายมีมานานมากแล้ว เพราะว่าทุกๆ สังคมมันมีคนหมู่มาก มีคนหมู่น้อย เพียงแต่ว่าวิธีที่เราดูเรื่อง Diversity เราดูต่างกันคือ Diversity ในองค์กรอื่นอาจเป็นการเรียกร้องให้ยอมรับแนววัฒนธรรมใหม่ๆ สำหรับกรุงศรีคือ การ Respect Individual การเคารพในปัจเจกชน จริงๆไม่ได้เรียกร้องว่าเราต้องทำเป็นคัลเจอร์ใหม่
นายวิธพล กล่าวว่า เรามีความคาดหวัง 3-4 ประการ ในการนำเสนอแคมเปญ Humans of Krungsri ต่อสังคมหลังจากที่กรุงศรีได้ทยอยปล่อยคลิปผ่านทางโซเชี่ยล มีเดีย ออกมาเป็นซีรี่ส์หลายตอนอย่างต่อเนื่องนั้น อันแรก อยากให้คนภายนอกรู้จักพนักงานของเราจริงๆ เป็นการรู้จักองค์กรของเราผ่านพนักงาน ข้อที่สองคือ ต้องการจะถ่ายทอดประสบการณ์จริงให้ตลาดได้รับรู้ เผื่อคนสนใจจะมาอยู่ด้วยกันจะได้ไม่ผิดหวัง ข้อสาม อยากให้คนในองค์กรภูมิใจว่า เรามีสิ่งที่ดี ที่แตกต่าง และเป็นเอกลักษณ์ในองค์กร ส่วนอันที่สี่อยากให้เห็นแนวคิดของคนแต่ล่ะรุ่นที่สื่อสารผ่านซีรี่ส์แรก เป็นแนวคิดของการดูแล การให้โอกาส เปิดกว้าง มีน้ำใจ และช่วยเหลือกัน
สำหรับซีรี่ส์ทั้ง 5 คลิป แสดงให้เห็นความหมายของ Humans of Krungsri คือ The Equality(เรื่องราวของพนักงานที่มีความพิการทางการได้ยินและการพูด),The Happiness (เรื่องราวของพนักงานหญิงชาวมุสลิมในจังหวัดนครศรีธรรมราช),The Glocal CEO (เรื่องราวของคุณโนริอากิ ผู้บริหารระดับสูงชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็น CEO ของกรุงศรี),The Opportunity(เรื่องราวของพนักงานหญิงในโครงการ GAIA ของกรุงศรี ที่ให้โอกาสพนักงานได้ไปฝึกงานร่วมกับทีมการเงินมืออาชีพในญี่ปุ่น) และ The Word of Wisdom (เกี่ยวกับประธานกรรมการแห่งกรุงศรี ผู้ผ่านประสบการณ์และความเปลี่ยนแปลงขององค์กรมากว่า 45 ปี) ทั้งหมดคือซีรี่ส์ที่สะท้อนภาพของความหลากหลายในองค์กรแห่งนี้ดังแฮชแทค #Diversity
นายวิธพล กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนต้องการให้ Bank Invisible ในมุมของลูกค้า นั่นหมายถึงลูกค้าไม่ควรเห็นแบงก์เลย แต่ควรเห็นความจริงใจและความช่วยเหลือ ยกตัวอย่างถ้าผมเป็นลูกค้า แล้วผู้จัดการสาขาดูแลดีมาก สุดท้ายจะไม่จำว่าเป็นผู้จัดการสาขาธนาคารกรุงศรี แต่จะจำว่าถ้ามีปัญหาให้ไปหาคุณคนนี้ นี่คือ Long Term Go ต้องเริ่มจากข้างในก่อน คิดง่ายๆ เหมือนสังคมของครอบครัว ถ้าในบ้านไม่มีความสุข นอกบ้านก็ไม่มีเหลืออะไร