“นักวิชาการ”ย้ำ “ยุติชุมนุม” ลดเสี่ยงรัฐประหาร! เผยต้องชนะวาทะกรรม “ชังชาติ”ให้ได้

“อนุสรณ์”เผยตัดสินใจยุติการชุมนุมมาถูกทาง แนะ ยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี แบบไม่สุ่มเสี่ยง ลดเงื่อนไขการรัฐประหาร พร้อมเดินหน้าก้าวข้ามวาทะกรรม “ชังชาติ” ให้ได้

Advertisement

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานกรรมการบริหารสถาบันปรีดี พนมยงค์ และ อดีตกรรมการและผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุม “19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร”ที่ธรรมศาสตร์ –สนามหลวง วานนี้ (19 ก.ย.63) ความตอนหนึ่งว่า “การยุติการชุมนุมเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงและการรัฐประหาร เป็นการแสดงให้ความเห็นอย่างชัดเจนว่า แกนนำของ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีอย่างเคร่งครัด ไม่เคลื่อนไหวสุ่มเสี่ยง และต้องการให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างจริงใจ และผู้มีอำนาจรัฐก็ได้พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะและความรุนแรงซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี นับเป็นพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นของผู้ปกครอง

ผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ  ประธานกรรมการบริหารสถาบันปรีดี พนมยงค์

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ยังคงมีความเสี่ยงที่จะถลำลึกสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงได้อยู่แม้นการชุมนุมในวันที่ 19 กันยายนจะจบลงโดยดีก็ตาม โครงสร้างอันไม่เป็นธรรมยังคงดำรงอยู่และเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้งต่อไป ผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย รักสันติ จึงต้องสามารถเอาชนะต่อขบวนการต่อต้านประชาธิปไตยและกระหายความรุนแรงให้ได้ด้วยการรณรงค์ให้เกิดการปฏิรูปอย่างแท้จริงภายใต้ระบอบประชาธิปไตย

จำเป็นต้องเอาชนะวาทะกรรม “ชังชาติ” และ “ล้มเจ้า” ที่ใส่ร้ายป้ายสีให้ได้ เอาชนะด้วยความอดทน หมั่นชี้แจงด้วยเหตุผล ด้วยข้อเท็จจริง นำไปสู่การตื่นรู้ของประชาชนส่วนใหญ่ นำไปสู่การอยู่ร่วมกันได้ท่ามกลางความแตกต่างหลากหลายอย่างมีสันติสุข เสมอภาคเป็นธรรม และช่วยกันทำให้ระบอบประชาธิปไตยอันมี “กษัตริย์” เป็นประมุขมีความมั่นคงยั่งยืนต่อไป ไม่สร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่การซ้ำเติมความยากลำบากทางเศรษฐกิจของประชาชน หรือ แก้ไขปัญหานอกวิถีทางของกฎหมายและประชาธิปไตย

ได้กล่าวชื่นชมในการความกล้าหาญและเสียสละในการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตยและผลักดันการปฏิรูปประเทศ ผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรวมทั้งปกป้องผู้ถูกคุกคามจากความเห็นต่างในทางการเมืองของผู้ชุมนุมในวันที่ 19-20 กันยายน

อย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงบรรดาเยาวชนคนหนุ่มสาวผู้เป็นอนาคตของชาติว่าให้ดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้ดีขึ้น เพื่อประชาธิปไตยและเพื่ออนาคตของทุกคน ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง รัดกุม เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่ประสงค์ดีต่อระบอบประชาธิปไตย และ ผู้ที่จ้องหาโอกาสในการเข้าสู่อำนาจอันไม่เป็นไปตามวิถีทางแห่งกฎหมายและประชาธิปไตย อันหมายรวมถึงกลุ่มทหารที่จะฉวยโอกาสทำรัฐประหารด้วย

บรรยากาศช่วงเดินเข้าสู่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

น้องๆนิสิตนักศึกษาต้องตระหนักและเตรียมรับมือกับการโต้กลับของเครือข่าย “ปฏิปักษ์ประชาธิปไตย” ด้วยความรู้เท่าทัน อดทน และ ยึดถือแนวทางสันติวิธีและหลักของเหตุผล ขณะเดียวกัน ท่านต้องไม่หลงอยู่ในห้วงวังวนของมหาสมุทรแห่งความหลอกลวงและความหวาดกลัว จงมีความหวัง เอาความจริงและความกล้าหาญทางจริยธรรมเข้าสู้ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสันติธรรมไม่ใช่การต่อสู้วันเดียว อาทิตย์เดียว เดือนเดียว หรือ ปีเดียวจบ มันเป็นสงครามยืดเยื้อที่เราต้องต่อสู้กับพวกเผด็จการและพวกกระหายความรุนแรงและการกดขี่ การต่อสู้อาจต้องใช้เวลาชั่วชีวิต อาจต้องสืบทอดให้ลูกหลาน อย่าหวาดกลัวในการแสดงจุดยืนและความเห็นที่ถูกต้องเพื่อพิทักษ์สันติธรรมและเสรีภาพ และ เราต้องยอมเข้าสู่ความยากลำบากที่จำเป็น แต่เป็นความยากลำบากที่พิสูจน์การกระทำอันยิ่งใหญ่ เป็นอมตะ เช่นเดียวกับวีรชนทั้งหลายที่ได้สละชีวิต เลือดเนื้อ ความสุขสบาย เกียรติยศชื่อเสียงและทรัพย์สมบัติ เพื่อให้ประเทศนี้เป็นประเทศของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง