จมเรือทุกลำของจีนใน 72 ชม.!!! หญิงเหล็ก “มิเชล ฟลัวร์นอย” ว่าที่บิ๊กทหารมะกันในรัฐบาล “โจ ไบเดน” เปิดเผยผ่านสื่อฯ งานนี้สุดจัดปลัดไม่ต้องบอก!!
“มิเชล ฟลัวร์นอย” (Michele Flournoy) อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการป้องกันประเทศ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของสหรัฐฯ บุคคลที่คาดว่าจะได้รับตำแหน่งสำคัญทางด้านยุทธศาสตร์การทหารในรัฐบาลของ “โจ ไบเดน” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ เกี่ยวกับนโยบายทางด้านการทหารของสหรัฐฯ โดยเฉพาะกับการจัดการกับแสนยานุภาพของกองทัพจีน และการบริหารจัดการด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ

“มิเชล ฟลัวร์นอย” เปิดเผยกับ thediplomat.com ( https://thediplomat.com) โดยสรุปว่า “เพนตากอนจะต้องดำเนินการในทศวรรษหน้าเพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันกับจีนที่มีความสามารถมากขึ้น รวมถึงการเผชิญกับความยากลำบากทางการเมืองและงบประมาณ ความท้าทายหลักของเพนตากอนในทศวรรษหน้าคือการจัดการสิ่งที่เเรียกว่า สามเหลี่ยมเหล็ก ซึ่งอาจหมายถึงการลงทุนด้านเทคโนโลยีให้กับทางกองทัพ เพื่อรองรับกับการปฏิบัติงาน และการพัฒนาของจีนในปัจจุบัน โดยเน้นย้ำว่า หากสหรัฐฯ ไม่ทำอะไร ความสามารถในการหยุดยั้งศัตรูอาจถูกกัดกร่อน และผลประโยชน์ที่สำคัญของสหรัฐฯจะตกอยู่ในความเสี่ยง ผลประโยชน์เหล่านี้อยู่ภายใต้แรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งจีนที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจ และกำลังปรับแต่งกองทัพเพื่อป้องกันสหรัฐและใช้อิทธิพลมากขึ้นเพื่อบีบบังคับเพื่อนบ้าน”

สำหรับ “มิเชล ฟลัวร์นอย” แล้ว เคยได้รับตำแหน่งสำคัญทางการทหารและความมั่นคงโดยเฉพาะในเพนตากอน และมีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงในรัฐบาลของ “โอบามา” และ “ทรัมป์” ซึ่งคาดว่าจะได้รับตำแหน่งสำคัญด้านความมั่นคงในรัฐบาลของ “โจ ไบเดน” ว่าที่ ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่

นอกจากนี้ “มิเชล ฟลัวร์นอย” ยังได้เปิดเผยผ่านสื่อเกี่ยวกับข้อเสนอในการจัดการกับศักยภาพ และแสนยานุภาพทางทะเลของจีน โดยครั้งหนึ่งได้เคยระบุว่า “ในแผนการจัดการด้านการทหารของสหรัฐฯ ควรจะต้องมีขีดความสามารถจมกองเรือรบ เรือดำน้ำ และเรือพาณิชย์ ทั้งหมดของจีนในทะเลจีนใต้ภายใน 72 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยยับยั้งจีนไม่ขยายอิทธิพลต่อไปในภูมิภาคนี้ กองทัพสหรัฐฯต้องการเพียงขอบเขตที่เพียงพอ ที่จะยับยั้งจีนจากการคุกคามผลประโยชน์ที่สำคัญของสหรัฐฯในภูมิภาค

โดยเน้นไปที่การสร้างศักยภาพทางการทหารมากกว่าการแข่งขันกันสะสมอาวุธนิวเคลียร์ โดยเฉพาะในเขตที่เรียกว่า พื้นที่สีเทา (อาจหมายถึงน่านน้ำแปซิฟิก และทะเลจีนใต้) ที่จะมีผลกับความมั่นคงระหว่างสองประเทศที่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นมากกว่า”
ที่มาข้อมูล https://thediplomat.com
เครดิตภาพ https://fortune.com ,https://www.defense.gov,https://news.usni.org/, https://www.defensenews.com/,https://navalnews.net/