ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาท โดยมีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง เป็นประธานในการประชุม ภายหลังนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายปิด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง และนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ชี้แจงเสร็จเรียบร้อย จากนั้นเวลา 10.35 น. ที่ประชุมได้ลงมติอนุมัติพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ด้วยคะแนน 270 ต่อ 196 งดออกเสียง 1 ไม่ออกเสียง 2 เสียง
อย่างไรก็ตาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีการชี้แจงระหว่างการพิจารณา พรก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ว่า การกระจายวัคซีน เป็นอำนาจ สสจ. บางจังหวัดอาจไม่พอ ก็ขอให้รอ ขออย่านำเรื่องวัคซีนมายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ตนให้เกียรติและเคารพการเมือง แต่มีการเมืองมากเกินไป ก็เดินหน้าไม่ได้ ขณะเดียวกัน ไม่ต้องกังวลค่าใช้จ่ายกับการจัดซื้อวัคซีน โดยยืนยันรัฐบาลจะจัดหามาให้ และขณะนี้ ก็ปลดล็อกให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถสั่งซื้อวัคซีนจากหน่วยงานของรัฐได้ แต่หากปล่อยให้สั่งวัคซีนกันเอง ก็อาจได้วัคซีนปลอม
“อะไรที่ไม่ดี ตนขอโทษ แต่การอภิปรายเมื่อเช้าที่ผ่านมา ส.ส.ไล่ตนเหมือนหมูเหมือนหมา ถ้าอยากได้เกียรติก็ต้องให้เกียรติคนอื่นด้วย สำหรับประสิทธิภาพวัคซีนนั้นจะยี่ห้อใดก็เหมือนกัน ถ้า อย. และสธ. รับรองมาตรฐาน อเมริกาฉีดวัคซีนที่ไหนก็ได้ แต่ถามว่าเขาเฝ้าสังเกตอาการ 30 นาทีเหมือนประเทศของเราหรือไม่ วันนี้ยอดผู้เสียชีวิตของอเมริกามีจำนวนเท่าไหร่ ถ้าวันนี้คนใดติดต่อจัดซื้อวัคซีนได้ขอให้แจ้งมายังตน เพราะที่ผ่านมามีแต่นายหน้าทั้งนั้น จะนำเข้าวัคซีนส่งเดชก็ไม่ได้ วันข้างหน้าจะมีวัคซีนปลอมหรือไม่ก็ไม่ทราบ”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนท้ายว่า ตนให้เกียรติ แต่บางครั้งการทำการเมืองอย่างเดียว ประเทศก็ไปไม่ได้ ขณะนี้วัคซีนมาแล้วในเดือนมิ.ย. ใครที่พูดว่าถ้าวัคซีนมาแล้วจะลาออก ทำไมไม่ลาออก ตนไม่เคยเอาชีวิตคนมาเป็นของเล่น และเคารพให้เกียรติ ส.ส. แต่ท่านต้องให้เกียรติตนด้วย ไล่ให้ออกไป ถามว่ามันใช่เวทีไหม เมื่อกี้ก็มีแถลงข่าวข้างล่าง ก็เอาผู้ต้องหาคดีมาแถลงข่าวที่สภา (ลุงพล) ก็ไม่รู้อะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย