ต้องยอมรับก่อนว่า ตัวของผมเองไม่ได้เป็นแฟนของหนัง X-MAN มากนัก แต่ผมก็ดูเกือบทุกภาคนะ ในหนังเรื่องนี้ จะเน้นตัวละครที่รู้จักกันดีในนาม “Wolverine หรือ Logan” เป็นตัวละครหลักที่มีประวัติอันยาวนาน ด้วยความเก่าแก่และฆ่าไม่ตายของ Wolverine สามารถเปรียบเสมือน “พี่มาช่า สาว 3 ยุค ของประเทศไทย” จากพื้นฐานความเก๋าของตัวละคร ทำให้ตัวเนื้อเรื่องมีความน่าค้นหาว่าเนื้อเรื่องต่อไปจะดำเนินต่อไปในทิศทางไหน?
ถ้าผมลองเปรียบเทียบรสชาติระหว่างหนังX-MAN ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และหนัง Logan ที่พึ่งเข้าโรงได้ไม่กี่วันมานี้ ผมคิดว่าหนัง X-MAN จะมีความแฟนตาซีที่จัดจาน เน้นถึงการปล่อยพลังที่ยิ่งใหญ่และความสามารถสุดอลังการของตัวละครเพียงอย่างเดียว มันทำให้ผมรู้สึกซ้ำซากจำเจ และไม่ค่อยอยากดูมากนักถ้ามีภาคต่อออกมาอีก ในส่วนของหนัง Logan นั้น ตัวเนื้อเรื่องจะดึงเอกลักษณ์ของตัว Wolverine ออกมาอย่างตรงไปตรงมา ด้วยการเล่าเรื่องของอุปนิสัยและอารมณ์ที่สุดแสนดุดันของ Wolverine ทำให้ตัวหนังมีความน่าสนใจปราศจากพลังวิเศษที่ดูเกินจริง
ว่าถึงเนื้อเรื่องในหนังเรื่องนี้ หนังเรื่องนี้จะเล่าถึง Wolverine ในปี 2029 โดยไม่กล่าวถึงเรื่องที่ผ่านมาในอดีตแต่อย่างใด ทำให้ผู้ชมไม่จำเป็นที่จะต้องมารื้อฟื้นนความหลังเพื่ออินกับเนื้อเรื่อง ส่วนตัวละครเสริมที่ชื่อ Lura เป็นตัวซับพอร์ต Wolverine ได้เป็นอย่างดี ด้วยบทที่เน้นถึงอารมณ์และบุคลิกที่มีความคล้ายคลึงกัน ยิ่งเพิ่มความสนุกให้กับหนังเรื่องนี้
โดยภาพรวมแล้ว ถ้าไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์เดิมๆในแบบ X-MAN หนังเรื่อง Logan ถือว่าเป็นหนังที่สามารถดูแล้วสนุกได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมากนัก แค่รู้ว่า Wolverine คือใคร แค่นั้นก็เพียงพอแล้วในการรับชม สำหรับหนังสไตล์ Super Hero เรื่องนี้ถือว่ามีความครบเครื่อง มีหลายรสชาติให้ลิ้มลอง ผู้ชมจะบันเทิงในความรุนแรงของหนัง action อินกับเนื้อเรื่องที่ความสัมพันธ์เชื่อมต่อกันระหว่างตัวละคร
ผมสามารถแนะนำได้อย่างเต็มปากว่าถือเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งในเดือนมีนาคม ดูแล้วคุ้มค่ากับสารที่ตัวหนังได้สื่อออกมา แต่ถ้าคุณต้องการการปล่อยพลังที่ยิ่งใหญ่ในหนังเรื่องนี้ คุณอาจผิดหวังเล็กน้อย แต่ความมันส์ในหนังเรื่องนี้ สามารถทดแทนพลังต่างๆนาๆใน X-MAN ได้อย่างไม่หน้าเชื่อ #MinaTheater
