ก้าวไกล-เพื่อไทยเคาะ “วันนอร์” นั่งปธ.สภาฯ

ปิดดีล! ก้าวไกล-เพื่อไทยเคาะ “วันนอร์” นั่งปธ.สภาฯ ส่วนกก.รองปธ.สภาฯ คนที่ 1-พท.รองปธ.สภาฯ คนที่ 2 เดินหน้าหนุน “พิธา” เป็นนายกฯ อย่างสุดความสามารถ
ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ ย่านห้วยขวาง กทม. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และคณะ พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ร่วมกันอ่านแถลงการณ์โดยเสนอพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค
โดยนายพิธา กล่าวว่า แถลงการณ์ข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ตามที่ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ได้ประชุมหารือกรณีตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ โดยมอบหมายให้พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ไปเจรจาตกลงร่วมกันนั้น บัดนี้พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ได้ตกลงร่วมกันดังนี้
1.เสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาฯ โดย ส.ส.พรรคก้าวไกลเป็น รองประธานสภาฯ คนที่ 1 และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 โดยพรรคประชาชาติ ไทยสร้างไทย เสรีรวมไทย เป็นธรรม เพื่อไทรวมพลัง และพลังสังคมใหม่ พร้อมให้การสนับสนุนตามข้อตกลงนี้
2.บุคคลปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ พร้อมผลักดันวาระที่ทำให้รัฐสภาไทยก้าวหน้า ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีประสิทธิภาพ และเป็นของประชาชน
3.ข้อตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯในครั้งนี้ เป็นไปตามเอกภาพระหว่าง 8 พรรคระหว่างจัดตั้งรัฐบาล เสนอและสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างสุดความสามารถ โดยดำเนินการตามข้อ MOU ที่ได้แถลงร่วมกันเมื่อ 22 พ.ค. 2566
“พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ยืนยันร่วมให้ความเห็นกฎหมายสำคัญเพื่อประชาชน รวมถึงคดีนิรโทษกรรมการแสดงออกทางการเมือง การแก้ไขกฎหมายปฏิรูปกองทัพ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ร่าง พ.ร.บ.กฎอัยการศึก การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นต้น โดยพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นว่า ข้อตกลงประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกัน เพื่อจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ตามเจตนารมณ์ของประชาชนที่แสดงออกชัดเจน ผ่านการเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค. 2566 นี่เป็นการแถลงร่วมกันระหว่างก้าวไกล และเพื่อไทย เรื่องแนวทางในการลงมติประธานสภาฯในวันพรุ่งนี้ (4 ก.ค.)”
เมื่อถามว่า นายวันมูหะมัดนอร์ รับทราบเรื่องนี้แล้วหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้มี 2 กระบวนการคือ 1.วานนี้ (2 ก.ค.) ตนส่งนายชัยธวัช ไปเจรจากับนายวันมูหะมัดนอร์ที่บ้าน 2.วันนี้ได้หารือกันที่สภาฯ ก่อนเข้าร่วมรัฐพิธี พร้อมกับอ่านแถลงการณ์ฉบับนี้ให้นายวันมูหะมัดนอร์ทราบแล้ว
ประวัตินายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2487 ที่จังหวัดยะลา จบมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา และจบมัธยมศึกษาตอนปลาย แผนกวิทยาศาสตร์ จากโรงเรียนอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ครุศาสตรบัณฑิต (มัธยมศึกษา) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยทุนของกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี พ.ศ. 2512 ต่อมาสำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาโท ครุศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารการศึกษา) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ. 2517
เริ่มรับราชการครูและได้รับตำแหน่งเป็นครูใหญ่ โรงเรียนอัตตรกียะห์ อิสลามมียะห์ จังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่อายุเพียง 20 ปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2512 ได้ย้ายมาเป็นอาจารย์ประจำวิทยาลัยครูสงขลา (ปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา) ปี พ.ศ. 2518 เป็นอาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา (ปัจจุบันมหาวิทยาลัยทักษิณ) และเป็นอาจารย์พิเศษ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์พร้อมกันด้วย จากนั้นในปี พ.ศ. 2521 ได้รับตำแหน่งรองอธิการบดี วิทยาลัยครูสงขลา
ทำงานการเมือง โดยเริ่มในสังกัด พรรคกิจสังคม เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและแกนนำ กลุ่มวาดะห์ ไปเข้าสังกัด พรรคประชาธิปัตย์ และต่อมาย้ายไปร่วมก่อตั้งพรรคประชาชน และ พรรคความหวังใหม่ โดยมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรค และเป็นผู้นำกลุ่มวาดะห์ แทนนายเด่น โต๊ะมีนาที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง และขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคในเวลาต่อมา ก่อนจะย้ายไปเข้าสังกัด พรรคไทยรักไทย จากการยุบรวมพรรคความหวังใหม่เข้ากับพรรคไทยรักไทย เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2545 และ ได้รับตำแหน่งเป็น รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย จากนั้นถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากคำวินิจฉัยในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 แต่ยังคงมีบทบาทให้คำแนะนำ ส.ส.กลุ่มวาดะห์ ซึ่งย้ายจาก พรรคไทยรักไทย ไปสังกัดพรรคประชาราช ระยะหนึ่ง ก่อนจะย้ายไปสังกัด พรรคมัชฌิมาธิปไตย เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2550 และย้ายไปสังกัด พรรคพลังประชาชน กระทั่งในปี พ.ศ. 2555 หลังจากพ้นถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 13