กรมอนามัยจับมือม.มหิดล ดัน Health Literacy “สังคมไทยรอบรู้ด้านสุขภาพ”

กรมอนามัย จับมือ ม.มหิดล ร่วมมือดำเนินงานพัฒนาองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพประชาชนและขับเคลื่อนความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) นำไปสู่การเป็น สังคมไทยรอบรู้ด้านสุขภาพ”ในยุคไทยแลนด์ 4.0

Advertisement

น.พ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานพัฒนาองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพประชาชนณ ห้องประชุมกำธรสุวรรณกิจ อาคาร 1 ชั้น 1 กรมอนามัยว่า จากการศึกษาวิจัยช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบว่า ในกลุ่มประชากรที่มีความรอบรู้ด้านสุขภาพไม่เพียงพอมักมีความรู้ด้านสุขภาพที่จำกัด มีอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรและการใช้บริการรักษาพยาบาลโดยไม่จำเป็นในอัตราที่สูงกว่ากลุ่มประชากรที่มีความรอบรู้ด้านสุขภาพที่เพียงพอนอกจากนี้ จากการสำรวจของกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ในปี 2557 พบว่า ระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพของคนไทย ในกลุ่มอายุ 7 – 18 ปี อยู่ในระดับพอใช้ร้อยละ 86.48 และระดับดีมาก ร้อยละ 5.25 หรือระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพของคนไทย เรื่อง อ ส ได้แก่ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา ในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป อยู่ในระดับไม่ดีพอ ร้อยละ 59.4 พอใช้ ร้อยละ 39.0 และระดับดีมากเพียง ร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว อาทิประเทศสิงคโปร์มีสัดส่วนประชากรที่มีความรอบรู้ด้านสุขภาพระดับดีถึงร้อยละ 76 หรือในแถบยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ มีสัดส่วนประชากรที่มีความรอบรู้ด้านสุขภาพระดับดีถึงร้อยละ 70

การพัฒนาองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพและยกระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพของประชาชน ถือเป็นการวางรางฐานที่สำคัญให้กับคนไทยทุกคนเพื่อการมีสุขภาพที่ดีสมวัยในทุกช่วงชีวิตดังนั้นความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) จึงเป็นตัวช่วยให้ประชาชนไทยรู้เท่าทันสถานการณ์ ข้อมูลข่าวสาร และสุขภาพของตนเองด้วยการกลั่นกรอง ประเมิน และตัดสินใจ ที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เลือกใช้บริการและผลิตภัณฑ์สุขภาพได้อย่างเหมาะสมโดยอาศัยความรู้ ข้อมูลสุขภาพ และบริการสุขภาพ จากหลายช่องทางจนสามารถจัดการสุขภาพด้วยตนเองได้ (Self-Management)

น.พ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย

“ทั้งนี้ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานพัฒนาองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพประชาชน ระหว่างกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในครั้งนี้ถือเป็นการผนึกกำลังกันระหว่างภาคสาธารณสุขและภาคการศึกษาในการพัฒนาบุคลากร ทั้งกลุ่มผู้บริหารกลุ่มวิชาชีพและบุคลากรระดับปฏิบัติการ ที่ใกล้ชิดกับประชาชนในระดับชุมชน เช่น กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)อาสาสมัครประจำครอบครัว (อสค.)ผู้นำชุมชน และกลุ่มคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.)ในการพัฒนาชุมชนและองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ ศูนย์พัฒนาและรับรององค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพ ( HLO Development and Accreditation Center) และเครื่องมือสำรวจความรอบรู้ด้านสุขภาพสำหรับประชาชนไทยอายุ 15 ปี ขึ้นไป โดยอาศัยความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงานในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เกิดขึ้น นำไปสู่การบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายของทั้งสององค์กร และเพื่อให้ประเทศไทยเป็นสังคมรอบรู้ด้านสุขภาพอย่างสมบูรณ์ต่อไป” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด